ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิด  (อ่าน 75 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 495
    • ดูรายละเอียด
รู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิด
« เมื่อ: 15 มิถุนายน 2024, 22:25:15 pm »
รู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิด

ไวรัสตับอักเสบปัจจุบันมี 5 ชนิด คือ ไวรัสตับอักเสบชนิด เอ บี ซี ดี และอี ซึ่งไวรัสตับอักเสบที่พบบ่อย คือไวรัสตับอักเสบชนิดเอ บี และซี ส่วนไวรัสตับอักเสบชนิดดีและอีพบได้น้อย

ไวรัสตับอักเสบเอ (HEPATITIS A VIRUS)

ไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนไวรัส เช่น ผักสด น้ำแข็ง อาหารทะเลจำพวกมีเปลือกเช่น กุ้ง ปู หอยที่ปรุงไม่สุก ซึ่งเชื้อมีระยะฟักตัวประมาณ 2 – 6 สัปดาห์ การติดเชื้อในเด็กส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ แต่ในผู้ใหญ่จะมีอาการแสดงของตับอักเสบเฉียบพลันที่รุนแรงและชัดเจนกว่า

อาการโรคไวรัสตับอักเสบเอ

    อุจจาระ สีซีด

    ปัสสาวะ สีเข้ม ตาและตัวเหลือง

    อ่อนเพลีย อาจมีไข้

    คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร

    ปวดท้อง


เด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปีมักไม่มีอาการ วัยรุ่นขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคตับอักเสบเรื้อรังจากสาเหตุอื่นมาก่อน

 
ผู้ที่ควรรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ

    เด็กอายุมากกว่า 1 ปี

    ผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรัง

    ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ

    ผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (กลุ่มเพศชาย)

    ผู้ที่ใช้สารเสพติด

    พ่อครัวหรือแม่ครัวที่ต้องปรุงอาหารเป็นประจำ

    ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศที่มีความเสี่ยงด้านสุขอนามัยต่ำหรือเป็นสถานที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ ควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน


ไวรัสตับอักเสบบี (HEPATITIS B VIRUS)

ไวรัสตับอักเสบบี เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบบีนั้นมีการติดต่อผ่านทางเลือด และการติดต่อจากแม่สู่ลูกซึ่งเป็นทางติดต่อที่พบมากที่สุด

 
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

    การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย

    การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน

    การใช้เข็มสักตามตัวหรือสีที่ใช้สักตามตัวร่วมกัน และการเจาะหู

    การใช้แปรงสีฟัน มีดโกน ที่ตัดเล็บร่วมกัน

    การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ (ถ้าแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อ 90%)

    การถูกเข็มตำจากการทำงาน

    การสัมผัสกับเลือด น้ำเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล

 
อย่างไรก็ดี เชื้อนี้จะไม่ติดต่อกันทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม การให้นม และการจูบกัน (ถ้าปากไม่มีแผล)


อาการโรคไวรัสตับอักเสบบี

เชื้อจะมีระยะฟักตัวประมาณ 2-3 เดือน แล้วจึงเริ่มแสดงอาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการ

    อ่อนเพลีย คล้ายเป็นหวัด

    คลื่นไส้ อาเจียน

    จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต

    ปัสสาวะเข้ม

    ตาเหลือง
 

ผู้ที่ควรรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

    ทารกแรกเกิดทุกราย เด็ก และวัยรุ่นที่ไม่ได้รับวัคซีนเมื่อแรกเกิด

    ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง

    ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี

    ผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ

    ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ทำการฟอกไต

    ผู้ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อย ๆ

    ผู้ที่ใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น

    ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค

 
ไวรัสตับอักเสบซี (HEPATITIS C VIRUS)

ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมักจะไม่ทราบมาก่อนว่ามีเชื้อนี้อยู่ในร่างกาย จะทราบก็ต่อเมื่อไปตรวจร่างกายแล้วพบค่าการอักเสบของตับผิดปกติ และตรวจเลือดพบการติดเชื้อ

การติดเชื้อไวรัสชนิดซี สามารถติดต่อกันทางเลือดหรือเพศสัมพันธ์คล้ายกับไวรัสตับอักเสบบี แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ทางการให้นมบุตร การจามหรือไอรดกัน การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำด้วยกัน และการใช้ถ้วยชามร่วมกัน

 
อาการโรคไวรัสตับอักเสบซี

ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ เนื่องจากมักไม่แสดงอาการ ทำให้เมื่อติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เกิดการดำเนินของโรคแบบค่อยเป็นค่อยไป หรืออาจมีอาการน้อยและอาการเหมือนโรคทั่วไป เช่น

    เบื่ออาหาร

    อ่อนเพลีย

    ไข้ต่ำๆ

    คลื่นไส้อาเจียน

    ปัสสาวะสีเข้ม


ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบซี ผู้ที่เป็นและไม่ได้รับการรักษาจะกลายเป็นไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง และในที่สุดจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่ ตับแข็ง และมะเร็งตับ


ไวรัสตับอักเสบดี (HEPATITIS D VIRUS)

เป็นไวรัสที่ไม่สมบูรณ์ ต้องอยู่ร่วมกับไวรัสตับอักเสบบี สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการสัมผัสกับเลือดที่มีเชื้อ ผ่านเข็มฉีดยาที่ปนเปื้อน หรือมีเพศสัมพันธ์

การติดเชื้อจะเกิดขึ้นพร้อมกับไวรัสตับอักเสบบีหรือเกิดในผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแฝงอยู่ ในร่างกาย โดยอาการจะทำให้เกิดตับอักเสบซ้ำซ้อนขึ้นมาในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี การรักษาเป็นการรักษาร่วมกันไปกับไวรัสตับอักเสบบี


อาการโรคไวรัสตับอักเสบดี

    อุจจาระ สีซีด

    ปัสสาวะ สีเข้ม ตาและตัวเหลือง

    อ่อนเพลีย อาจมีไข้

    คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร

    ปวดท้อง


ถึงแม้ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบดี แต่ยังมีวัคซีนสำหรับไวรัสตับอักเสบบี และเนื่องจากการเกิดโรคตับอักเสบดีต้องอาศัยการติดเชื้อไวรัสอักเสบบีมาก่อน เพราะฉะนั้นการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อทั้งสองสายพันธุ์ได้


ไวรัสตับอักเสบอี (HEPATITIS 5 VIRUS)

เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ตับและทำให้ตับเกิดการอักเสบ มีลักษณะคล้ายไวรัสตับอักเสบเอคือ ไม่เป็นโรคเรื้อรังเหมือนโรคไวรัสตับอักเสบบี ซี และดี และเมื่อร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อแล้วก็จะหายเป็นปกติ การแพร่เชื้อของโรคไวรัสตับอักเสบอี เกิดจากอาหาร น้ำดื่ม หรืออุจจาระที่มีการปนเปื้อน

 
อาการโรคไวรัสตับอักเสบอี

    ผิวเหลือง ตาขาว(ดีซ่าน)

    ปัสสาวะสีเข้ม

    อุจจาระสีอ่อน

    กดเจ็บบริเวณชายโครงด้านขวา(ตำแหน่งของตับ)

    ปวดช่องท้อง

    คลื่นไส้ และมีไข้

xaphus

  • บุคคลทั่วไป
Re: รู้จักกับโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิด
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2024, 07:49:11 am »

 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google